วันนี้ตื่นมาแต่เช้าเพราะว่าเสียงโทรศัพท์กรีดร้องแต่เช้า..ไม่ใช่ใครที่ไหนหรอก..พ่อกะแม่ของฉันนั่นเอง..
แม่คุยมาเป็นคนแรกบอกว่า..เออ..ยายบอกว่าให้มันบินกลับบ้านวันนี้เพราะว่าหยุดอีกหลายวัน...ไม่ใช่ไรหรอกนะ..ใจจิงเมื่อคืนก้อหาตั๋วเครื่องบินไว้เหมือนกัน..แล้วยังไงฟระ..สายการบินที่มานอยู่สุวรรณภูมิ..ทั้งการบินไทยกะบางกอกแอร์เวย์...มานไม่บินวันนี้อ่ะ..เข้าไปในเวบวันที่เริ่มให้จองคือวันเสาร์..แล้วจะกลับบ้านยังไง..จิง ๆ มีนกแอร์กะแอร์เอเชีย..แต่ราคาเกิน 2000 ไม่อยากกลับ จาเอาตังที่ไหนกินข้าว..บรรยายมาเยอะ..ก้อบอกแม่ไปว่า..อยู่ไกล..ไม่เป็นไรหรอก..เมื่อคืนก้อไม่มีอะไร..ต่อมาพ่อก้อมาคุย..สบายดีไม๊..อยู่ไกลรึเปล่า...นั่นนี่ นั่นี่..แล้วพอวางสายปั๊บ..ก้อหลับต่อ..ซะงั้น 555
วันนี้อยากกินขนมปังแต่เช้าไม่รู้เป็นอะไร..เซเว่นไม่มีขนมปังขายมาสองวันแล้ว..เซ็งจิต..ก้อเลยนั่งพี่วิน..(รอบนี้พี่วินเป็นทอม) ไปบิ๊กซี..โหยๆ..ไม่มีรถเข็น..อ่ะไม่เป็นไร ยังดีมีตะกร้า..เดินไป..เดินมา..ไมมานหนักฟระ..มองตะกร้าอีกที..เอ้ยย..ของเต็มเรย..555 ด้วยความที่กลัวว่าจากลับไม่ได้..แถมไม่มีคนยกของให้ก้อเลยไม่ได้ซื้อน้ำกิน...ได้ของสด กะกึ่งสดที่ต้องมาทำเองหลายอย่างเชียว..มักกะโรนีเอย ซุปเห็ดเอย (ซื้อมาอย่างกะจาได้ทำกับข้าวบ่อยงั้น) แต่ที่จงใจซื้อวันนี้คือ..เห็ดออรินจิ กะหมูบด..อยากกินกับข้าวเหนือ..แต่มันไม่มี ในตุ้เย็นมีพริกแกงเหนือที่แม่ตำมาไว้ให้เมื่อคราวกลับบ้านรอบที่แล้ว..มันหาผักเหนือ ๆ ไม่ได้..ไม่เป็นไรก้อประยุกต์เป็นไอเห็ดออรินจินี่ก้อแล้วกัน..จากที่บรรยายมา..คือซื้อมันตั้งแต่อาหารเหนือจดกลาง..แล้วเลยออกนอกประเทศไปนิดนึง..555
กลับมาก้อไม่ทำอะไร..เห็นมีน้ำแข็งใสขาย ก้ออยากกินอีก..(ไม่ได้กลัวอ้วนแต่อย่างใด..ในตอนที่คิดจะซื้อ หุหุ) ก้อกินน้ำแข็งใสก่อน..
คนขายเป็นแขก..พูดไทยไม่ชัดซะงั้นแต่น้ำแข็งใสที่ขายกลับเป็นแบบโบราณทีต้องใช้น้ำแข็งก้อนใหญ่ ๆ ไถไถกะแท่นที่มีมีด..ใครเคยเห็นก้อจานึกออก..แต่ถ้าไม่เคยเห็นนึกยังไงก้อคงไม่ออกอยุ่ดี..พวกที่เกิดก่อน พ.ศ. 2528 อย่างเราก้อยังเคยเห็นประปราย..อิอิ จากนั้นก้อทำกับข้าว..ตอนแรกกะว่า..จาถ่ายรูปไว้ซะหน่อย..แต่หน้าตาไม่น่ากินอย่างแรง.(แต่รสชาติดีมาก...อิอิ) ก้อเลยไมไ่ด้ถ่ายไว้..
เมื่อวานอ่านหนังสือเ่ล่มนึงชื่อ Desirable Taste เมนูปรารถนา ...
จากรูปจาเห็นว่ามีแลข 65 นั่นราคาที่ซื้อมาค่ะ..แต่ราคาจิงอยุ่ที่เล่มละ 120 บาม..อิอิ .คนเขียนใช้นามปากกาว่า ฮิมิโตะ ณ เกียวโต ซื้อมาตั้งแต่งานหนังสือเพิ่งได้ฤกษ์อ่าน...ชอบมาก ๆ ผู้เขียนเค้าเขียนแบบเหมือนออกมาจากอารมณ์ล้วนๆ อ่านแล้วอิน..ไม่รู้ว่าเป็นเรื่องจิงอิงนิยาย เรื่องจิงไม่อิงนิยาย เหรอว่าเรื่องแต่งหรอก แต่รุ้ว่า..อ่านแล้วอินมากโดยเฉพาะบท Alone in the kitchen
ตอนเย็นออกไปหาข้าวในซอยกิน..ไม่มีไรขายเลย..เศร้า..ก้อเลยไปซื้อหมูหยองที่เซเว่นกะว่าจาเอามาทำแซนวิสพรุ่งนี้..หุหุ วันนี้กลับมาก้อ..เอ..เราซื้อไรมามั่งหว่าา...มีมักกะโรนี..กะหมูยอ..เอามาต้มดีกว่า..จำได้ว่าเป็นเมนูที่กินตอนเด็ก ๆ ก้อเลยทำ ทำ ทำ ที่ห้องไม่มีอะไรมาก ไม่มีหม้อ เตาไฟฟ้า เครื่องใช้ไฟฟ้าที่สามารถทำอาหารได้มีแค่สองอย่าง..คือไมโครเวฟกะหม้อหุงข้าว..(ที่ไม่เคยได้ทำหน้าที่ตามชื่อเลยซักครั้ง..ซื้อมาตั้งแต่สมัยเรียน) เราก้อเลย..หม้อหุงข้าวดีกว่า..เพราะว่าต้องใช้เวลาต้มนาน..ไมโครไวฟวางบนตุ้เย็น..ไอครั้นจาแบกลงมาก้อใช่เรื่อง..หนักเอาการทีเดียว..ทำไปทำมาก้อได้มักกะโรนีต้มกะหมูยอหน้าตาแบบนี้ ตอนกินก้อเหยาะพริกไทยไปเยอะๆ เพราะว่าชอบมาก..อิอิ
จบการกินข้าวไปอีกวัน..แต่แปลกใจที่วันนี้ทำกับข้าวกินสองมื้อเรยเหรอเนี่ย...อยู่มาตั้งนานไม่ค่อยได้ทำอะไรเท่าไหร่..สงสัยจาเห่อ ข้าวของที่ไปซื้อมานี่เอง..สงสัยอารมณ์เบื่อเข้าสิงแหงๆ
=========================================================================
วันนี้วันที่ 20/05/2010 วันนี้เป็นวันที่สองของการประกาศเคอร์ฟิวส์ในกรุงเทพ...ไม่รู้คืนนี้จะมีอะไรอีก..เมื่อวาน Central World ก้อไหม้ไปหมดแล้ว...
Thursday, May 20, 2010
Monday, May 17, 2010
++ Singapore Trip ++ Day 3 วันสุดท้าย
The last day in Singapore
วันนี้เป็นวันสุดท้ายแล้วกับการมาเยือนเกาะสิงคโปร์..ตื่นเช้าได้สมใจ...เอ่อ..8.00 ถือว่าเช้าเนอะ..555 ทำนั่นทำนี่..แล้วก้อออกเดินทางสุ่ china town วันนี้ตั้งใจว่าจะมาซื้อของฝากกันที่นี่...แล้วยางไง...แล้วยังไง...ออกประตุ mrt ขึ้นบันไดเลื่อขึ้นมาปั๊บ....ฝนตกอ่ะพี่น้อง...เห้อ..ร้านที่เราจาซื้อก้ออยู่ห่างไปแค่ 5 ก้าว...แต่ไม่ก้าวจิง ๆ ออกไปแค่ก้าวเดียวก้อน่าจาเปียก..เลยเปลี่ยนแผนกันว่า..งั้นไป Orchard เลยละกันแล้วค่อยกลับมาแวะที่นี่..อื้ม..แล้วสุดท้าย..ตรงดิ่งไป Orchard ไม่รุ้เหมือนกันว่ามาโผล่ที่ห้างไหน..แต่..ต้องกินข้าวก่อน..การจาเดินช๊อปปิ้งแบบมีความสุขนั้น..ท้องต้องอิ่มก่อนอันดับแรก..555 วันนี้เอฟกินหมี่บลาๆๆจำชื่อไม่ได้จิง ๆ ..มันจาเหนียวๆ เหมือนราดหน้าแต่รสชาติต่างกัน.. กะ Kopi-O ซึ่งก้อคือโอเลี้ยงดีดีนี่เองแหละ..แนะนำให้ลองค่ะ..
จิงๆ เหตุการ์วันนี้ก้อไม่มีอะไรมากนอกจากการเดินช๊อปปิ้ง..แต่ที่เด็ดสุดสำหรับวันนี้ก้อค่อ..ชายหนุ่มคนนี้..ชอบมากกก..เค้ามายืนแจกใบปลิวงานอะไรซักอย่าง..แต่แบบว่า สะดุดตา แระน่ารักคอดๆๆๆ ต้องขอ photoshop ใส่แสงหน่อย(แต่งแล้วได้แค่นี้แหละ..หุหุ)..ช่วงนี้ตั้งแต่เริ่มหัดเขียน blog ก้อเลยหัดทำ photoshop ไปด้วย..แต่รูปอื่น ๆไม่ได้แต่งเลยนะ..แต่งแต่รูปประทับใจ..555
จากนี้ก้อจาเป็นรูปนะคะ..เห็นว่าปลายปีนี้จะมีแข่ง F1 ที่ สิงคโปร์..เห็นป้ายเค้าโปรโมตกันใหญ่..อยากไปดูจัง..
ตรงนี้ที่เราไปซื้อของกันมา....ได้ของเพียบ..
จากนั้นก้อขนของที่ช๊อป ๆ กันไปซื้อของฝากที่ china town อีกรอบ
เดินมาถึงใต้ดิน...เจอคุงเสือ..คงเป็นตัวอะไรซักอย่าง..คนถ่ายรูปกันตรึมหลังจากที่เราไปเริ่มกันก่อน 555
แล้วเราก้อมาถึงโรงแรม..เอากระเป๋า..โรงแรมนี้ดีนะ..พอเรา check out เราก้อยังฝากกระเป๋าไว้ได้..^^ ประทับใจจิง ๆ โรงแรมราคา 90 SGD nett แต่ไม่มีอาหารเช้า..ประทับใจพนักงาน
กลับจาก shopping เราก้อรีบบึ่งไปสนามบินด้วยวิธีการเดียวกะตอนมาแต่แบบย้อนกลับคือ นั่ง mrt สายสีม่วงจาก Farrer Park ใกล้กะที่พักเราไม่เกิน 500 เมตร ไปต่อ mrt สายสีเขียวที่ Outram park แล้วเปลี่ยนสีเขียวอีกทีที่ Tanah Merah ไปสุดที่สนามบิน Changi Airport อ่ะ..ลืมบอกไปว่าวันที่สามเงินในตั๋ว EZ-link ของเราหมด..ก้อเลยต้องเติมเงินกันไป..ตอนนี้เหลือเงินในบัตรตั้งเยอะแนะ..สงสัยต้องเก็บไว้ใช้คราวหน้า..เพราะว่าบัตรมานเก็บไว้ได้สี่ปีแนะ..^^
แล้วเราก้อมึน ๆ ว่าเราจะไป refund ก่อนเหรอว่าเราต้องไป check in ก่อน..เพราะว่าเราก้อมาถึงสถานีเลตพอดี..เจ็บใจแอร์ของ Jet star เหมือนกันที่ไม่บอกเราว่าเครื่องบิน delay เพราะว่าที่สองจิตสองใจตอนแรกไม่ยอมไป refund ภาษีเพราะว่ากลัวจา check in ไม่ทัน..เซ็งจิต..
พอเรา check in เสร็จจาเดินไปหาอะไรกินเนื่องจากเครื่อง delay แล้วคงไม่คิดจาไปหาอะไรกินที่ไทย..ก้อเลยเดินเตร็ดเตร่ ปรากฏว่า..เจอผู้หญฺงคนนึงจาฝากของเราเข้าไปข้างใน..พวกเราก้อกระอักกระอ้วนใจเพราะว่ากลัวเหมือนกัน..ก้อเลยบอกเค้าไปว่าเรายังไม่เข้าไปข้างใน..เพราะว่าจาหาอะไรกินกันก่อน..(ไม่ได้โกหกนี่นา..) ผู้หญิงคนนั้น..ก้อคงต้องหาคนเอาของเข้าให้อีกนั่นแหละ..เราก้อเดิน ๆ ๆ ปรากฏว่ามันไม่มีของกินข้างนอกเหมือนสุวรรณภูมิอ่ะ..สงสัยต้องไปหาอะไรกินข้างในย..แล้วก้อได้ Burger king ที่ดูราคาแล้วเหมือนจาโอเครสุด..จากนั้นก้อเดินเข้า gate เราก้อ..ถ่ายรูปเล่นกันได้เรือ่ย ๆ ก่อนเครื่องขึ้น....
จบแร้ววว...ลาก่อนนะ สิงคโปร์..ถ้ามีโอกาส คงได้แวะไปหาใหม่..
Sunday, May 16, 2010
++ Singapore Trip ++ Day 2 ตอนจบ
วันที่สอง...มาต่อกัน..
พิมมาตั้งหลายครั้งแล้วก้อลืมบอกไปค่ะว่า สามสาวเดินทางไปสิงคโปร์วันที่ 7-9 พฤษภาคม 2553 ที่ผ่านมานี่เอง..หุหุ
หลังจากที่เรากลับมาจากเกาะ sentosa เราก้อว่าจะไปกันที่ clarke quay กันเลยเพราะว่า..เบอร์เกอร์ที่กินไปที่ Universal เริ่มหมดฤทธิ์ แล้วก้อยังมี mission ใหม่เข้ามาคือหลังจากที่เรากินปูกันแล้วเราจาไป shop กันที่ Mustafa ห้างแขกแถวที่พักที่เปิด 24 ชม. เพราะได้ข่าวว่าน้ำหอมถูก..อื้อ..ร่ายไปร่ายมา..เพิ่งออกจากเกาะ sentosa อิ อิ แล้วอยุ่ ๆ เราก้อคุยกันเรื่องหนุ่มๆ สิงคโปร์ขึ้นมา..เพราะว่าเรามาอยู่ที่นี่กันสองวันแล้ว..เพิ่งเจอผู้ชายหน้า ตาที่เราลงความเห็นกันว่าหน้าตาดี แค่ 3 คน...อ่านไม่ผิดหรอกค่ะ..3 คน..จาบร้า..เราว่าที่ไทย..เนี่ย..วัน ๆ นึงอย่างน้อยก้อคนสองคนเข้าไปนี่อะไร..สองวันเพิ่งเห็นแค่สามคน..จาตะลอน ๆ ไปทั่วเมืองอยู่แล้ว...> < 555 แล้วประเด็นก้อจบตรงนั้น..เพราะว่าเอฟเองสะอึก..แล้วก้อหาที่ขายน้ำไม่เจอ..สุดท้าย...มีน้ำในประเป๋านี่หว่า...555 โก๊ะได้โล่เจรงๆ..
เอาเป็นว่า..เราก้อเดินทาง..ออกจาก sentosa เพื่อจาไปทำ mission แรกคือกินปูให้สำเร็จ...เราออกเดินทางไปที่ clarke quay ด้วย mrt เหมือนเดิม ที่ mrt สถานี Clarke quay เราเดินไปออกกันที่ central แล้วถึง central มานก้อมีให้เลือกว่าจา step up 90 ขั้นขึ้นไปเอง เหรอว่าจาออกทางห้าง...ณ จุดนี้เนี่ย...ไม่ต้องเดาก้อรู้ว่า...เราจาไปออกทางห้างกัน..555 เพราะว่าขาของสามสาวระบมมาสองวันแล้ว..>< โอเคร..ออกมาเราก้อตรงดิ่งไปที่ร้านปู Jumbo ร้านดังประจำย่านนี้...
.รุ้ได้เลยว่าร้านนี้ดังจิงๆ เราไปถึงกันตอนทุ่มครึ่ง..กะว่าจะได้นั่งกินปูลัลล้า กันเลย..ไม่..ม่ายยย..ร้านเต็ม..จาว่างอีกทีก้อนุ่นนน 3 ทุ่ม 45 อีกเกือบสองชม..แล้วพวกตรูจาไปทำไรกันก่อนฟระ..แต่เอาวะ.ไหน ๆ ก้อมาแล้ว..จองเลย..เดินออกมาจากร้าน..จาทำไรกันดีกว่าอีกตั้งสองชม. เราก้อเลยกะว่า..จาล่องเรือแม่น้ำสิงคโปร์กัน..อ่ะ..มองหาท่าเรือ...มันต้องเดินข้ามจากฝั่งร้านปูไปฝั่ง Clarke quay เพื่อหาท่าเรือ เดินไป เดินไป..ผ่านร้านนึง..บรรยากาศดี๊ดี..มีปูอยู่หน้าร้าน...
โอ๊ะโอ..ตอนนั้น ทุกคนก้อมีความเห็น..เปลี่ยนแผน...ฮะ..เปลี่ยนแผน...กินกันร้านนี้แหละ..ร้านนี้ชื่อว่าร้าน The PUMP room
ที่ ร้านนี้เรากินน้ำเอเวียงกันด้วย..อยู่ไทยไม่เคยได้กินหรอก..แต่..มันเป็นน้ำ ที่ถูกที่สุดในร้าน..อ่านไปอ่านมาไอเอเวียงที่เรากินกันอยุ่เนี่ย..มันมาจาก ไทย..กรี๊ด..น้ำขวดละ 5.5 SGD คิดเป็นเงินไทยขวดละ 130 บาทเนี่ย..คิดได้ว่า..บ้านเมืองเราเนี่ยแหละ..น้ำท่า อุดมสมบูรณ์ ที่สุดแล้ว..
แต่มาแล้วก้อ ลัลล้ากันอย่างมีความสุข..(บนความทุกข์เมือ่กลับไทย..555)
ร้านนี้มีผ้ากันเปื้อนให้ด้วยหง่ะ..แล้วเค้าก้อให้เอากลับบ้านได้..เราก้อ..เอากลับไทยมาด้วย..55
โอ๊ะโอ..ตอนนั้น ทุกคนก้อมีความเห็น..เปลี่ยนแผน...ฮะ..เปลี่ยนแผน...กินกันร้านนี้แหละ..ร้านนี้ชื่อว่าร้าน The PUMP room
ที่ ร้านนี้เรากินน้ำเอเวียงกันด้วย..อยู่ไทยไม่เคยได้กินหรอก..แต่..มันเป็นน้ำ ที่ถูกที่สุดในร้าน..อ่านไปอ่านมาไอเอเวียงที่เรากินกันอยุ่เนี่ย..มันมาจาก ไทย..กรี๊ด..น้ำขวดละ 5.5 SGD คิดเป็นเงินไทยขวดละ 130 บาทเนี่ย..คิดได้ว่า..บ้านเมืองเราเนี่ยแหละ..น้ำท่า อุดมสมบูรณ์ ที่สุดแล้ว..
แต่มาแล้วก้อ ลัลล้ากันอย่างมีความสุข..(บนความทุกข์เมือ่กลับไทย..555)
ร้านนี้มีผ้ากันเปื้อนให้ด้วยหง่ะ..แล้วเค้าก้อให้เอากลับบ้านได้..เราก้อ..เอากลับไทยมาด้วย..55
อาหารเรียกน้ำย่อย..ก่อนปูมาเราก้อสั่งข้าวผักกับบล๊อคโคลี่ผัดหอยอะไรซักอย่างที่หน้าตาเหมือนหอยเชลล์แต่ไม่ใช่หอยเชลล์..จำชื่อไม่ได้หง่ะ
แล้วน้องปูที่เราตั้งใจจาทำ mission ก้อมาถึง..ตัวใหญ่มากกกกก..ดีนะที่สั่งไซด์ medium ไป..ตอนแรกจาสั่ง large แต่พนักงานเค้าแนะนำว่า..พวกยูมากันสามสาว.. medium ก้อพอจ๊ะ..เราก้ออ่ะ ๆ เชื่อๆ..อิอิ
ตัวนี้ใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยกินปูมาแล้ว..แล้วก้อเป็นการกินปูนอกบ้านครั้งแรก..ที่ต้องกินด้วยตัวเอง..ไม่มีคนแกะให้..(พี่โอ๋บอกว่า..รอบนี้แกะกันเองนะจ๊ะสาว ๆ เค้ามีอุปกรณ์มาให้แล้ว..พร้อมสาธิตวิธี..) แต่จนแล้วจนรอด..ส่วนใหญ่พี่โอ๋ก้อแกะให้..ด้วยคงเห็นว่า..อีกสองคนคงไม่รอด..555
จนเรียกเก็บเงิน..
ก๊อดด...170.19x23.8=4050.22 บาทไทย..
ไม่เป็นไรถือว่ามื้อเดียวที่นี่..ค่อยไปกินมาม่ากันต่อที่ไทย 555 ก่อนกลับพวกเราก้อเลยแวะเข้าไปในย่านซะหน่อยไปสะดุดตาร้านนึง..เป็นร้านขายพวกอาหารอินเดีย..กะลังโชว์เรย..ได้โอกาสแชะภาพมา..
แล้วก้อได้เวลากลับ..ลาก่นอนนะจ๊ะ..clarke quay เป็นที่เดียวในสิงคโปร์ที่เราไปกันสองรอบ..วันแรกไปเซอร์เวย์ก่อน วันนี้มากันแบบจิงจัง ..ระหว่างทางเดินไป mrt ก้อถ่ายรูปเรื่อยๆ..
ไปเจอเจ้าป้ายอันนี้..ฮามาก มากสุดตรง No durians เพราะว่าเอฟไม่ชอบทุเรียนเลยจิง ๆ ได้กลิ่นแล้วเวียนหัวมาก ๆ กฏหมายเค้าปรับจิงอะไรจิง..ถึงว่าประชาชนเค้ามีระเบียบมาก..ชอบประเทศนี้ก้อตรงนี้แหละ..ไม่เว้นช่องให้คนทำผิด
แล้วก้อเลยทำท่าเนียนๆ เป็นคนสิงคโปร์ยืนพิงกำแพง 555
ยัง..ยังไม่หมดแค่นั้นเพราะว่า mission ต่อไปคือไป Mustafa เพื่อไปดูน้ำหอม...แล้วก้อเจอจิงๆ อยู่ชั้น 1 เลย..น้ำหอมเยอะมากก...เดินไปเดินมา..เทสจนเวียนหัวเราก้อได้เจ้าของขวดนี่มา..
โดยเฉพาะ Paul Smith ROSE เนี่ย..เป็นกลิ่นที่เราตามหามานาน..มากกก..ในที่สุดชั้นก้อเจอเธอ...ชอบมากๆ ส่วนสวนสาวๆ ก้อได้กันมาคนละสองขวดอัพ..อิอิ..มันถูกจิง ๆ นะ..ก้อเลยต้องขนกันนิดหน่อย..อิอิ... แล้ววันนี้ก้อผ่านไป.กว่าจากลับถึงพี่พักปาไปตี 1 ตอนแรกกะว่า..จากินมาม่าอีก..แต่ไม่ไหวแล้ว..ง่วงมากมาย...กะว่าพรุ่งนี้..ชั้นจาต้องตื่น 8.00 โมงให้ได้..^^
Friday, May 14, 2010
++ Singapore Trip ++ Day 2.1
วันที่สองของการเดินทางทริปนี้..
แล้วเราก้อขอให้เจ๊ที่เราซื้อตุ๊กตาถ่ายรูปให้..555 พวกช้านเสียตัง..ให้ร้านเธอ เธอก้อถ่ายให้หน่อยนะ ^^
แล้วก้อเอาตั๋วราคาพันเจ็ดที่ปริ้นจากเมืองไทย (ปริ้นออฟฟิศ ไม่เสียตัง..อิอิ) ไปแสดงว่าพวกช้านจ่ายตังแล้วนะยะ..อิอิ..
เอฟตั้งนาฬิกาปลุกไว้ที่ 8.00 เวลาของที่โน่น..โดยการให้พี่ที่ไปด้วยกันตั้งเวลาไว้แล้วก้อวางไว้ไกล ๆ หน่อย..เพราะว่าผู้ร่วมทริปนี้แต่ละคนแบบว่า..ตื่นง่ายมากกกกกก..ซะที่ไหน..เอฟต้องตื่นคนแรกเพราะว่าเป็นคนที่อาบน้ำแล้วต้องทาครีมสารพัดจาทำนั่นนี่โน่น...แล้วก้อเล็งเห็นแล้วว่า ถ้าเราไม่ตื่น...สงสัยเราสามคนจาได้มานอนเสียตังกันที่สิงคโปร์ 555 วันที่สองตื่นมาก้อ สะโหลสะเหลไปปิดมือถือตรงหน้ากระจก..ปิดแล้วแทนที่จะไปอาบน้ำ..ไม่..สะโหลสะเหลกลับมาฟุบที่เตียง..แล้วก้อฝัน..ฝันบ้าบอถึงอีโรงแรมเดิม...แปลว่า..ตามมาหลอกหลอนจิงๆ สะดุ้งตื่นอีกที..บอกตัวเองว่า..อยากนอนกลับไปนอนกรุงเทพสิยะนังนู๋เอฟ...แล้วก้อเลยได้ตื่นขึ้นมาอาบน้าม..ปลุกสาว ๆ ที่เหลือมาอาบน้ำ..แผนวันนี้คือไปกินข้าวเช้า(คุยกันว่าเป็นติ่มซำ)ที่ china town แล้วก้อไปจนสุดสถานี harbor front ต่อ monorail ไป Sentosa เพื่อไปลัลล้าต่อที่ Universal Singapore ว่าจาไปตามหารถไฟเหาะ..ซะหน่อย ^___^ กรี๊ด ๆ ตื่นเต้นๆ..รถไฟเหาะจ๋า..รอพี่ไปขึ้นก่อนนะจะ..555
แต่แผน มานก้อคือแผน 555 วันนี้กว่าจาออกมาจากโรงแรมก้อประมาณ 11 โมงแร้ว..ไปโผล่ตรง Chinatown แดดเปรี้ยงเชียว..ขึ้นมาปั๊บ..
สุดท้ายเราก้อเลยซื้อกันมาคนละตัว..ยกเว้นพี่โอ๋เพราะว่าเราขอลดแล้วไม่ได้..555
เดินกันไปมา..หาร้านกินข้าวไม่เจอก้อเวลาก้อใกล้จาเที่ยงแล้ว..กลัวว่าจาเล่นเครื่องเล่นไม่คุ้มก้อเลยว่าจาไปหาไรกินที่ vivo city ดีกว่าเพราะว่าจาได้รีบไปเลย
จากนั้นเราก้อนั่งรถไฟฟ้ากันไปต่อสุดที่สถานี harbor front โผล่ขึ้นมาที่ห้าง vivo city ที่นี่เองที่เราไปยืนพูดภาษาอังกฤษแบบงู ๆ ปลา ๆ กะป้าร้ายขายติ่มซำบนห้าง..ตลกมาก..ตอนแรกเดินวนเพราะว่าไมรุ้ว่าจากินไรดี..เลียบ ๆ ไปไปเจอร้านนึงชื่อ Thai บลา ๆ จำชื่อไม่ได้..เค้าเขียนเป็นภาษาไทยติดหน้าร้านว่า “ยินดีต้อนรับคนไทยทุกคน” เราก้อโอ้โห..ดีใจแทนรัฐบาลเจรง ๆ ว่าคอนเส็บครัวไทยไปครัวโลก..ท่าทางจาได้ผล 5555 แต่ไม่..อาหารไทยตรูกลับบ้านหากินเองได้..อยากกินไรที่พื้นเมืองหน่อย..วนไปสามรอบ..จนไปเจอร้านขายติ่มซำ..มานมะมีคนขายอ่ะ.งเราก้อยืนปั้นจ้ำปั้นเจ๋อ..อยู่ซักสามนาทีได้มั้ง ป้าคนขายคงทนไม่ได้..มาถามเราก่อน ยูจากินไร..เราก้อบอกว่า I want bao ,custard แล้วก้อชู 2 นิ้ว..แล้วป้าก้อพยายามโปรโมทว่าถ้าซื้อสามลูกได้กินชา กาแฟฟรีนะ..เราก้อบอกไม่เอา..จากินติ่มซ่ำ..ป้าแกก้อเปิดซึ้ง..ลังถึงหรืออะไรก้อแล้วแต่ที่นึ่งติ่มซำอยุ่เราก้อถาม..อยู่นานตอนแรกชี้จาเอาขนมจีบกุ้ง..แต่ป้าบอกว่าวันนี้ไม่มีขายคุยไปคุยมา..ไอที่อยู่ในลังถึง..มีส่วนผสมก้อเนื้อหมด..เราไม่กินเนื้อก้อเลยอดไป..ยืนนานมาก ( 10 นาทีได้แล้วว) เราก้อเดินไปดูตรงของทอดสรุปว่าได้ ทาร์ตไข่มา..สรุปว่าเมื้อเช้า + เที่ยงวันที่ 2 ก้อกินซาลาเปาใส้ครีมกะทาร์ต ออไปซื้อผลไม้ด้วย..3 ชิ้น 5.5 SGD อื้มม..มะม่วง แตงโม ส้ม(เปรี้ยวมาก ..ไม่อร่อยเลย ไม่แนะนำส้ม) อารายกานเน่..เวลาล่วงเลยมาเกือบบ่ายโมงแร้วว T T
แล้วเราก้อไปซื้อตั๋วจาขึ้น monorail ไป sentosa แล้วยังไง...ไปเสล่อสิงคโปร์อีกแล้ว..ไปต่อซื้อตั๋ว song of the sea ซะงั้น..ดีนะที่ เจ้าหน้าที่เค้าเห็นแล้วถามว่าพวกเราจาทำอะไร..แล้วเค้าก้อให้ไปอีกมุมนึง..555 ยังได้อีก..จากนั้นก้อดิ่งไป sentosa ไป Universal กรี๊ดๆ..ใกล้แล้วๆ..รถไฟเหาะของช้านน..
ลงมาแร้วก้อเจอ monorail ที่มาจากข้างในเกาะกลับสู่โลกนอกเกาะ..อิอิ..
เดินเลี้ยวขวามาจาเจอเจ้าลูกโลกแระก้อตามธรรมเนียมต้องไปถ่ายกะเจ้าลูกโลกอันนี้ก่อน...อิอิ
ว่าแล้วก้อถ่ายรูปคู่ซะหน่อย แล้วก้อเอาตั๋วราคาพันเจ็ดที่ปริ้นจากเมืองไทย (ปริ้นออฟฟิศ ไม่เสียตัง..อิอิ) ไปแสดงว่าพวกช้านจ่ายตังแล้วนะยะ..อิอิ..
เพื่อตามหารถไฟเหาะที่เห็นแต่รางตั้งแต่เดินเข้ามา
ระหว่างทาง
เดินเข้าไปเรื่อย..เริ่มคิดได้ว่าไมตรูไม่เอา map มาด้วยฟระ..> <
เจอแล้ววว ตรงดิ่งไปหารางแดงน้ำเงินตรงหน้า...แล้ว แล้ว แล้ว ความซวยครั้งมาสิงคโปร์ก้อตามมาหลอกหลอนอีกครั้งเมื่อพบว่า..รถไฟเหาะปิดซ่อม...น้ำตาแทบไหล..คิดว่าเอาวะ พันเจ็ด ได้ขึ้นเจ้านี่ก้อคุ้มแล้ว...แล้ว..ยังไง..ปิดซ่อม..วันนี้ทั้งวัน T^T น่าเศร้าจิงๆ..
เราก้อเลยไปตะลุยเล่นอย่างอื่นกันแทน..ตามรูป..
เดินไป เดินมา ร้อนมาก ๆ ..แล้วแดดก้อแรง..ผิมเริ่มละลายกลายเป็นสีช๊อคโกแลต
เล่นๆ จนเหนื่อย..จิง ๆ น่าจาเหนื่อยจากการวิ่งไปวิ่งมาถ่ายรูปมากกว่า...555
อยู่ ๆ ฟ้าก้อมืด..ไรว๊า...แล้วฝนก้อตกลงมา เราก้อเลยนั่งลัลล้ากิน แซนวิส ไก่ทอด แฮมเบอร์เกอร์ กันจาก voucher 10 SGDที่ได้มาพร้อมตั๋ว กินกันไป กินกันมา...ฝนหยุดพอดี..555 ได้เวลาไปกินปูแล้ววว
เอ้ย ออกไปเที่ยวที่อื่น..อิอิ...เดี๋ยวเราก้อจะย้ายก้นออกจากที่กินข้าวไปซื้อของฝาก..เนื่องจากได้ voucher เราคา 5 SGD อีกนั่นแหละ..แล้วก้อถ่ายรูปส่งท้าย..
ยังไม่พอกะ sentosa island เราก้อเลยกะว่าจานั่งรถ monorail ไกลเข้าไปข้างในเกาะอีกนิด...แล้วเราก้อวิ่งผ่านตัวพ่อ..แล้วก้อไปถึง beach station ไปเหยียบชายหาดสิงคโปร์ครั้งแรก..^^
แล้วเอฟกะพี่โอ๋ก้อขออนุญาตไปเล่น Luge หนุกดี..นั่ง ๆ ขึ้นไปบนเขา แล้วก้อบรึ้น ๆ ลงมา..มะได้ถ่ายรูปตรงนี้แต่ก่อนเล่นต้องปั้มมือ
เล่นกันไปเริ่มเหนื่อยแล้ว..ถึงเวลาสำหรับ mission การเดินทางในวันที่สองคือกินปูยักษ์...แต่..แต่..พิมเหนื่อยแล้ว..555
เอาไว้เล่าต่อพรุ่งนี้ดีกว่า...อิอิ
Subscribe to:
Posts (Atom)