Wednesday, May 25, 2011

Tokyo Trip +++ Day 2

วันที่  2 ของการอยู่โตเกียว..^__^


 จิงๆ วันนี้ตั้งใจว่าจาตื่นซัก 7 โมงครึ่ง..เพื่อที่ว่าทำอะไรเสร็จออกก้อประมาณ 8 โมงครึ่งถึง9 โมงเช้าซึ่งหลีกช่วง Rush hour นรกของโตเกียวนิดนึง..เพราะว่าไม่งั้นอาจจะโดนฝูง Smith เหยียบเอาได้..แต่ก้อนะ..แผน..ก้อคือแผน..7 โมงครึ่งก้อแล้ว..8 โมงเช้าก้อแล้ว..กว่าจาลุกได้ก้อโน่น 8 โมงครึ่ง..บอกตัวเองว่า..เมื่อวานเหนื่อยมากกก..ตื่นไม่ไหว..ตื่นสาย ๆ จาได้ไม่เจอ smith 555(แก้ตัวชัด ๆ ) กว่าจาทำอะไรเสร็จก้อโน่นเกือบ ๆ 10 โมงเช้า..ตอนเดินไปสถานี Shinjuku เพื่อหารถไฟฟ้าสาย Marunouchi เพื่อที่จะนั่งไปสถานี Tokyo แล้วไปเปลี่ยนเป็นสาย Keiyo line เพื่อไปสถานี Malhama เพื่อเป็นที่ตั้งของ Disney land เอาหล่ะแต่เดินไป เดินมาก่อนถึงสถานี Shinjuku หิว เลยหาซื้ออะไรใส่กระเป๋าไว้ก่อน..(เผื่อของกินใน Disney มานแพง..หุหุ) แล้วก้อนั่งรถไฟไปสถานีโตเกียว..พอไปถึงเอาหล่ะสิ..สถานีนี้เป็นสถานีที่ใหญ่ที่สุดในโตเกียว..มี 4 ชั้น..ลงใต้ดิน..เอ่อ..เอ่อ..หารถไฟสาย Keio อยู่นาน..เดินไกลมากกกก..อย่างกะสุวรรณภูมิ..บอกได้เลยว่าใครจามาเปลี่ยนสถานีที่สถานีนี้..แบบ..งง งง เดินไป..เหมือนว่าก๊อตซิล่าจาโผล่มา..ใหญ่ แถมวังเวง..กว่าจาเจอ.. Keiyo เอ่อ..เจอแร้วไง..เดินไปเดินมา..ถึงแร้ว..แต่..ยังมีแต่..มีรถไฟสองขบวนที่ไป Malhama เหมือนกัน..เอาไงดีฟระ..คันนึงคาดส้ม..คันนึงคาดแดง..ไปที่เดียวกัน..แล้วมันต่างกันตรงไหนฟระ....ลังเลอยู่พักนึง..กลัวนั่งผิด..เพราะว่าดีสนีย์มันอยู่นอกเมืองไปหน่อย..แล้วสิ่งที่ไม่ได้คาดคิดก้อเกิดขึ้น..รถไฟสายคาดแดง..ออกไปเฉย..ซักพักก้อมีคันใหม่มาจอด...เอาวะ..ไปสีส้มก้อได้..นั่งไปหลับไป..นับว่าต้องนับไปอีก 6 สถานี..นั่งไปนั่งมา..เหมือนว่าจาถึงแล้ว..เห็นปราสาทแล้ว..แต่นี่..เพิ่งจอดครั้งที่ 4 เอาไงดีฟระ..แต่ตื่นมาปุ๊บ..มีแม่ ๆ ลูก กะเด็ก ๆ หน้าตาประมาณมัธยม..แถมมีคู่คนแขก คนลงเยอะมาก..เดินตาม..ออกมาปั๊บ..รู้เลยว่าใช่..หุหุ
ออกมากปุ๊บ..ทางออก Disney จะมีทางเดียว

ทางเดินยาว..เข้ากะออกทางเดียวกัน ..แล้วก้อปราสาทที่เห็นที่รถไฟฟ้า..จิง ๆ เป็นโรงแรม.. 

นี่..ถึงแล้ว..

 จากนั้นก้อไปซื้อตั๋ว ตั๋วของ Disney นั้นจะแยกเป็น Disney land และ Disney sea มีตั๋วแบบหนึ่งวัน สามวัน..ตั๋วหลังสามโมงเย็น ตั๋วหลังหกโมงเย็น..อื้ม..แล้วเราก้อจ่ายตังไป..ค่าเข้าตั้ง 6800 Yen เศร้า..แพงจิ๊บ..แล้วก้อเดิน เดินเข้าไป..
ทางเข้า..ว๊าววว..

เจอ..เพื่อนนน...555 คนแคระจากเรื่อง Snow White นั่นเอง..อิอิอิ.เจอเพื่อนแล้วก้อต้องถ่ายรูปคู่ซะหน่อย..


จากที่เห็นช่วงที่ไปเป็นช่วงเทศกาลอีสเตอร์ของที่นี่ตั้งแต่วันที่ 15-31 พฤษภาคม จากใบปลิว Today ว่าวันนี้มีอะไรบ้าง วันนี้จาไม่มีพาเหรด Disney magic in the sky ที่เป็นพลุ แต่จะเป็นพาเหรดชื่อ Nightfall Glow แทนตอนทุ่มครึ่ง..ไม่เป็นไร..มาถึงก้อ 11 โมงเช้า..เวลายังเยอะ...555

มีป้ายบอกว่าเป็นเทสกาลอีสเตอร์

พอเดินเข้าไปเจอพาเหรด..ช้านนี่..วิ่งไปหา..ไปโบกมือให้มิกกี้..ตลกตัวเอง..แต่ไม่แคร์คนที่นี่โบก..ตรูโบกตาม..เค้าว่าเข้าเมืองตาหลิ่วต้องหลิ่วตาตาม..555 



ที่นี่มีหลายโซนมาก..ดูจากแผนที่เหมือนว่าจาใหญ่ เดินจิง ๆก้อไม่ใหญ่เท่าไหร่..แต่ ณ ขณะนั้น..ความหิวมานครอบงำ..เลยเดินไปซื้ออาหาร มาเป็น แซนวิชซาลาเปาไก่ทอดมือมิกกี้..ก้ออร่อยใช้ได้.


.แล้วก้อข้าวหมูกับไข่..ใส่กล่องหัวมิกกี้..เข้ากะหน้าคนกินมาก..หุหุ..แร้วก้อเลยสั่งกาแฟมา..แก้วใหญ่ด้วย..ไงหล่ะ..ไงหล่ะ..ไม่อร่อยเลยยยให้ตาย..เศร้า..

ไปกด กด น้ำเอาก้อได้..พวกน้ำตู้กดที่นี่..อร่อยมาก..ข่างนอกจาขวดละ 120 yen กะ 180 yen แต่ในนี้ทุกขวด..ตู้กด ราคา 200 Yen กินเสร็จ..อิ่ม.ก้อเดินหน้าตะลุยอันแรกที่เข้าเป็น Space mountain เครื่องเล่นนี้เล่นกะหน้าตาคล้าย ๆ กะรถไฟเหาะเหินเวหาอะไรซักอย่างที่ Dream world บ้านเรา..แต่..เหวี่ยงน้อยกว่า..และที่สำคัญรุ้สึกว่าปลอกภัยกว่ามาก 5555 จากนั้นก้อตะลุยเล่นนั่นนี่..ที่เด็ดๆ คือ Pooh’s Honey Hunt แบบ..สนุกมากกกก..เลยสอยหมวก pooh มาซะ 1 ใบ 55 


จากนั้นไปบ้านผีสิง..บ้านผีสิงที่นี่ดีนะ..ไม่เหม็นต รี น(เท้า) เหมือนที่ดรีมเวิร์ด อาจจะมีกลิ่นนิดหน่อย..ตรงทางออก..ถือว่าให้อภัย  วันนี้ดีมากก..เพราะว่าเป็นวันธรรมดา แล้วก้อคนไม่เยอะเท่าไหร่..สงสัยเค้าจากลัวกัมมันตรังสีกัน หุหุ 
แล้วก้อเดินไป Small World อันนี้แบบว่านั่งเรือเข้าไป..ถ้าตอนกลางคืนต้องน่ากัวแน่นอน..ตุ๊กตาร้องเพลงได้..มีของไทยด้วย..

อันนี้ขาไก่งวงรมควัน..เอ่อ..ใหญ่มากกกกกกก

เครื่องเล่นแต่ละอันต่อแถวเล่น 15-20 นาทีถือว่าไม่เยอะ.เลยเล่นได้เยอะ..ที่ที่ต่อแถวนานที่สุดก้อน่าจาเป็นปราสาทนางซิน รอไป 40 นาที..หุหุ ไปแปลงร่างเป็นนางซินหมีพู 




หน้าปราสาทซินเดอเรลลา..มีมิกกี้..ต้องไปทำท่าซะหน่อย..555

วันนี้คุ้มมาก..เดินผ่านอะไร..เล่น..อยากเล่นเล่น.. ถ่ายมามั่ง..ไม่ถ่ายมั่ง..วันที่ไปมีพาเหรดหลายรอบมาก..เพราะว่ามีรอบบ่ายที่เป็นรอบพิเศษเนื่องในเทศกาลอีสเตอร์

เซตนี้เป็นพาเหรดรอบธรรมดาที่มีทุกวัน.. 





อันนี้เป็นเซตพาเหรด..รอบพิเศษ เฉพาะเทศกาลอีสเตอร์..^^





แล้วก้อเล่น เล่น เล่น..นั่นนี่โน่น..จนเริ่มเหนื่อย...555
แล้วก้อรอดู Nightfall Glow ตอนทุ่มครึ่ง..ใจจิงก้ออยากดูพลุนะ..><



ปราสาทนางซิน..ตอนกลางคืน..

ออกมาถ่ายมุมเดิมอีกรอบ..สวยไปอีกแบบ


จากนั้นก้อกลับเรย..กลับมาถึงสถานี Shinjuku ก้อยังไม่ดึกเท่าไหร่..วันนี้เลยขอไปเดิน คาบูกิโจอีกรอบ..555 รอบนี้กล้ามองมากขึ้น..เจอพี่ซ่าตัวเป้ง..แบบว่าแต่งตัวธรรมดามากก..แต่ออร่ามานบ่งบอก..เดินมา..พี่ซ่าตัวเล็กๆ ถอยกรู...มีผู้ติดตามด้วย..จิง ๆ แล้ว ยากูซ่า เค้าก้อคือตำรวจท้องถิ่นประจำด้านมืดนั่นแหละ..เพราะว่าถ้ามีเรื่องอะไรที่บางทีตำรวจจัดการไม่ได้..พี่ซ่าที่คุมถิ่นนั้นเค้าก้อจะจัดการ..ถิ่นใคร ถิ่นมัน..อื้มม..แล้วก้อกลับ..ขากลับเจอร้านขาย Toast เอ่อ..แถวชิบูย่าไม่เห็นมีฟระ..จิง ๆ น่าจาชื่อ Shinjuku Honey Toast มากกว่าแต่ที่เจอแบบไซด์ใหญ่มากไหญ่กว่าทุกก้อนที่เคยกินที่ไทย..5555 

จบวันที่สอง..วันพรุ่งนี้..จะพาไปสักการะศาลเจ้าดังของโตเกียว..สองที่..แล้วต่อไปตะลุย Harajuku กันค่า ^^


Monday, May 23, 2011

Tokyo Trip +++ Day 1 part 2(จบวันแรก)


ฮาโหล..มาเล่าต่อจากที่ค้างไว้ของวันแรกนะคะ ^_____^


แร้วก้อหาจนเจอเจออ..ไอรถไฟสีเทาลายประ..หายากมากที่สถานี Shinjuku..นั่งสาย Yamanote ไปจนถึงสถานี Shibuya เพื่อเดินหาราเมง..เดินไปหลงไป..ตอนแรกเหมือนชิว..เดินไปเจอกลุ่มสาว ๆ กรี๊ด..เราก้อว่าเค้ากรี๊ดอะไรได้ยินแต่ทามะ ทามะ..เราก้อไม่ได้สนใจอะไร..เดินไปนิดนึงเจอป่ายว่า 2PM จามาร้านนี้..เรยไปดูซะหน่อย..คนเยอะ..มองไม่เป็นหง่ะ..ก้อเลยเดินออกมา..ถ่ายรูปไปกะลังจาเดินข้ามแยก..หันกลับไปมอง..เห็น นิชคุณพอดี..กร๊ากกก..อยู่เมืองไทยไม่เคยเจอหรอก..มาญี่ปุ่นเจอเฉย 5555 แล้วเราก้อเดินไป เดินนนไป เดินไป..แร้วก้อหลง…ป๊าดด..เดินมาสองสามแยกเหมือนหลง..ก้อเลยไปถามคุณลุง รปภ. คุณลุงใจดีมาก..ให้แผนที่มาแร้วก้อบอกทางเป็นภาษาญี่ปุ่น..เอ่อ.. ไม่รู้ทำไงเลยถามว่า Big camera อยู่ตรงไหน..เพราะว่าจากที่เราศึกษามาแล้วจากเมืองไทยนั้น..ร้านที่จาไปจะต้องข้ามแยก big camera ไป..เราก้อเลยได้ map มาหน้าตาดังนี้..

ออ..ที่ญี่ปุ่นจาออกเสียงคำว่า map ว่า แม๊ป ปุ. พูดแบบนี้เค้าจาเข้าใจมากกว่า..จากนั้นก้อเดิน ๆๆๆๆๆ เดินหลงไปสองชม.กว่าๆ เดินวนแยกนั้น ออกแยกนี้จนถอดใจละ..เลยเดินไปกลับมาตั้งหลักที่แยก Shibuya ก่อน เดินไป เดินมาถึงแยก..กะว่า..เจอราเมงร้านไหน ก้อจาเดินเข้าไปก่อน..ปรากฎว่าเจอร้านนึง..อยุ่ตรงข้ามร้านขายหนังสือการ์ตูนโป๊.พอดี..555 ไม่ได้ตั้งใจเดินเข้าไปหาราเมงนะ..เห็นป้ายการ์ตูนมานใหญ่ 5555
ร้านนี้..แถว Shibuya ซักซอย..หุหุ

เดินเข้าไป..กร๊ากก..ไม่มีใครพูดอังกฤษได้..อื้ม..ไม่รุ้ทำไง..เลยชี้เอา..เลยได้มาเป็นหน้าตาแบบนี้...

ราเมงที่นี่เค้าจาให้เลือกความเหนียวของเส้น กะความเผ็ด..นี่ขนาดเลือกแบบเผ็ดน้อยแล้วนะ..แบบว่า..เผ็ดมากย่ะ..ใครบอกว่าญี่ปุ่นไม่กินเผ็ดไง..ง่า..เผ็ดมาก..เส้นเยอะ..นี่ราเมงจับกังเหรอว่าอะไรยะ..โห.พยายามกินให้มาก กัวเค้าเสียใจ..แต่ก้อนะ..ไม่ไหวแร้วววว..จ่ายตังแร้วก้อเดินออกมาจากซอย..ทำไงดีฟระ..ยังไม่อิ่ม..55 เจอร้าน Krispy Kreme 

เอ่อ..ร้างหง่ะ..คนน้อยมากกก..เมื่อเทียบกะไทยเรา..แล้วก้อกินให้หายหิว..จากนั้นก้อถึงเวลา shopping วันนี้แค่บ่าย ๆก้อเหนื่อยแล้ว..เพราะว่านั่งเครื่องมันนอนไม่สบาย..ตอนแรกกะว่า check in เสร็จจานอนพักก่อนออกไปข้างนอก..ก้อไม่ได้พัก..เพราะว่า check in ไม่ได้ แถมเดินหาราเมง..ที่หาไม่เจออีกเกือบ 3 ชม. ง่า..แต่ก้อยังมีแรง shopping อิอิ..เราเข้าไปเดินในห้างชื่อ 109 women อารมณ์ประมาณแพลตตินัมบ้านเราแต่ไฮโซกว่า..เป็นห้างที่เอาไว้ถ่ายหนังสือ vivi นั่นเอง..เดินไปอยู่พักนึงเพราะว่าที่นี่มี 7 ชั้นแน๊ะ..คนขายแต่ละร้านอารมณ์ประมาณนางแบบทั้งนั้นเลยอ่ะ สูงยาวเข่าดี หน้าสวย..เข้าไปกลายเป็นกระเหรี่ยงเรยอ่ะ..ชั้น..หุหุ ของที่นี่สวยมาก..สมแล้วที่เป็นเมืองแฟชั่น..แบบว่า..แต่ละร้านมีสไตล์ของตัวเอง..คนก้อแต่งตัวของตัวเอง..ไม่ตามใคร สุดยอด..ชอบการแต่งตัวของคนเมืองนี้จิง ๆ..เดินไปเดินมา.ช๊อปปิ้งไปเรื่อยๆ..ไม่ได้ซื้ออะไรซักกะชิ้น..ราคาซื้อไม่ลงจิง ๆคิดเป็นเงินไทยแล้ว..ชั้นกลับมาซื้อที่เมืองไทยดีกว่า..ซื้อแบบนี้ไปแต่งเมืองไทย..ใคร ๆ ก้อคงว่าช้านเป็นกะเหรี่ยง..5555 มานล้ำไปนะ..
เดินไปเรือ่ย ๆ เหมือนว่าตัวเองจาเป็นลม..(แหมะ..ตอนเดิน shop ละไม่เป็น ) แต่ยัง..ดีกรีความบ้ายังไม่หมด..แพลนวันนี้คือจาต้องไปกิน chocolate ที่กินซ่า..แล้วก้อโตเกียวทาวเวอร์ก้อยังรออยู่..เวลาเหลือถมถืด..เพราะว่าไม่มีกะตังจาซื้อชุด เลยคิดใหม่..ไปกินดีกว่า..เปลี่ยนทาง..555 ก้อเลยกลับมาที่สถานี Shibuya มาถ่ายรูปกับ ฮะ จิ โค..หมาผู้ซื่อสัตย์

..คิดดูมานั่งรอเจ้าของที่สถานี Shibuya เป็นเวลา 10 ปี ทุกวัน...ย้ำ..ทุกวัน..เป็นหมาที่สุดยอดมากกก..
ว่าแล้วก้อถ่ายแยกที่จ๊อกแจ๊กจอแจสุด..เค้าว่ากันว่า..แยกนี้จะมีคนเดินผ่านทุกวัน วันละ 2 ล้านคน..ว๊าววว..อีกอย่าง..แยกนี้เป็นฉากหนึ่งเรื่อง The fast and the furious : Tokyo Driff ตอนที่ขับดริฟกันแร้ว..ฮานตายนั่นแหละค่ะ..
แยกนี้เอง..ถ่ายไม่ค่อยชัดว่าเป็นแยกเท่าไหร่...ก้อไม่แปลก..คนถ่ายเตี้ย..55555

จากนั้นก้อเดินหา..ทางลงไป Ginza line เพื่อไปกินขนมที่ร้าน 100% Chocolate 

นี่ก้อเป็นอีกร้านที่ห้ามพลาด..must have นะคะ ถ้ามาโตเกียวหล่ะก้อ..เพราะว่าร้านนี้จะมี chololate ให้เลือกเยอะมากกก..ใครเป็นแฟนช๊อคโกแลตห้ามพลาด..
ขนมมีสองสามอย่างต่อฤดู..นั่นหมายถึง..ฤดูเปลี่ยน..เมนูร้านก้อเปลี่ยน..ร้านนี้เค้าจาให้เราเลือกช๊อคโกแลตก่อนแล้วค่อยเลือกขนม..เพื่อที่จาเอาช๊อคโกแลตที่เราเลือกใส่ในขนมที่เราเลือก..ว๊าว..เลือกได้ทุกอย่าง..หุหุ เราเลยซัดมาซักสองสามอย่าง 555 ไอยาวๆ นั่นเรียกวาฟเฟล๊ต (Wafflet) อีกอันจำชื่อไม่ได้เรียกขนมก้นหอยแล้วกัน 555 ไอน้ำนี่ก้อจำชื่อไม่ได้ แต่อร่อยทุกอย่าง..

จุดเด่นอีกอย่างของร้านนี้คือทุกคนจาได้รับแจกช๊อคโกแลตประจำวันน่ารักมาก ๆ อร่อยด้วย..
วันที่ไปคือวันที่ 18 May 2011 หน้าตาช๊อคโกแลตประจำวันเป็นแบบนี้ค่ะ

 กินเสร็จก้อกลับ..เพื่อไปต่อ..มานี่เพื่อกินเท่านั้น 555 จากนั้นก้อนั่งรถย้อนกลับไปที่สถานี Yoyogi เพื่อไปเปลี่ยนสายรถไฟนั่งต่อไปยังสถานี Akabanebashi เพื่อจาไป Tokyo Tower ถึงโตเกียวทาวเวอร์แร้ว..ปวดขาอย่างมากกกกกก..แต่ก้อไหนไหนก้อมา..(อีกแร้ว) ก้อขึ้นไปดูซะหน่อย..
มองจากสถานีก้อดูไม่เท่าไหร่เนอะ

แต่พอไปถึงข้างล่าง...เอ่อ..มานก้อสูงนะ..

ที่นี่มานมีแบบสองราคา..แบบถ้าดูแบบธรรมดา..ไปที่จุดชมวิว..แร้วก้อราคาที่สอง..ขึ้นไปยอด..นี่อีกราคา..ว้าว..จารอดเหรอ..ไหน ๆ ก้อมา..มานต้องสุด..5555 ตอนที่ขึ้นลิฟท์ ไปชั้นชมวิว..อ่า..สูงจัง..แต่ก้อยังเฉยๆ..

แต่พอขึ้นไปถึงยอด..เอิ่ม..ทำไมพื้นสั้นตลอดเวลา..เอิ่ม..มันขยับได้..กรี๊ดด..อยู่ไม่ถึง 5 นาที..ลงเรยค่ะ..ลงดีกว่า..ไม่งั้นเป็นลมเป็นแล้งไป..หุหุ ลงมาเดินนิดหน่อย..แต่ไม่ไหวแร้วจิง ๆ มานร้าวไปทั้งขา..T^T 
พอลงมาจะเห็นว่าจากชั้นชมวิวไปถึงยอดมันกี่ขั้น..เดินก้อได้..แต่..ขอขึ้นลิฟท์ค่ะ

อันนี้พื้นของชั้นสูงสุด มันขยับได้อ่ะ..น่ากัวมาก


วิวของชั้นบนสุด

ก้อเรยว่ากลับไปตั้งหลักที่โรงแรมก่อนดีกว่าจาได้ไป check in ด้วย..นั่งย้อนนกลับไป..ที่สถานี Shinjuku ซักหกโมงกว่าๆ เอาหล่ะ..เต็ม ๆ เจอ เต็มๆ ..เหล่า Smith เต็ม..ดำทะมึน.กะสูทกะกระเป๋า 555 เดินกลับโรงแรมมา check in เหมือนไม่มีวิญญาณ..เข้าห้องปั๊บ..น๊อค..ตื่นมาตอนสองทุ่ม ..เอาไงดีวะ..หุหุ..ก้อเลยว่าจาไปกินชาบูและสุกี้ original ล้างหน้าล้างตา..แร้วเราก้อจาตะลุยย่าน Kabuki-jo ของ Shinjuku ย่านนี้เป็นย่านเที่ยวกลางคืนย่านใหญ่ของโตเกียวเรยทีเดียว..เราได้สัญญาณว่า..ถ้าไปถึงย่านคาบูกิโจ ใครมาชวนคุยห้ามคุย ห้ามมองตาใคร ห้ามมองหน้าใครเกิน 5 วินาที..ตอนแรกก้อ...เห้ยมากจังฟระ..แต่พอกะลังข้ามถนนได้ยินเสียงคนตะโกน..เราก้ออะไรของมันวะ..คนที่ตะโกนเดินแหวกออกมาจากกลุ่มคน..พูดว่าแหวกก้อไม่ถูก..ทุกคนหลีกทางให้มากกว่า..เอ่อ..ยากูซ่านั่นเอง..ใส่ชุดวอร์ม..กินไอติมโคน..เอ่อ...จาว่าตลกก้อตลก..จาว่าน่ากัวก้อน่ากัว..เดินไปเรื่อยๆ..เริ่มเข้าใจคำว่า..ห้ามคุย ห้ามมองหน้าใครนาน ๆ เพราะว่าไม่งั้น เค้าจาเดินเข้ามาหาเรา..ย่านนี้จามีพวกยากูซ่าก้อเยอะ พวก host ก้อเยอะ..host ที่นี่..สังเกตง่าย ๆ ที่แยกกะพวก smith อย่างนึงถึงแม้ว่าเค้าจาแต่งตัวเหมือนกัน..คือพวก host เราจาสังเกตได้ว่าเค้าจาเนียบ..ไม่ถือการ์ตูน..มะก่อนเคยอ่านการ์ตูนเรื่องมาเฟียที่รัก..คือ..พวก host ก้อจาทำผมประมาณพระเอกเรือ่งนั้น..หน้าตาแต่ละคน..อย่างกะดารา..แต่ก้อนะ..มองไม่เยอะเท่าไหร่..ไม่กล้ามองหน้าใคร..ยอมรับว่ากลัว เพราะว่ายากูซ่าก้อเยอะ..แร้วอย่าไปหลงนินทาเป็นภาษาไทยเชียว... พี่ซ่าเค้าฟังออก..อีกอย่าง ยากูช่า ภาษาญี่ปุ่นกะ ภาษาไทย ออกเสียงเหมือนกัน..ต่อไปเราเลยจากเรียกพวกนี้ว่าคุนพี่ซ่า..555 ออกเสียงให้ตายยังไงก้อไม่เหมือน หุหุหุ แล้วก้อไปกินชาบู..กะสุกี้ แบบ original ญี่ปุ๊นน ญี่ปุ่น...มากินนี่เข้าใจเลยว่า..ไอสุกี้แบบบ้านเราหน่ะ.จิง ๆเค้าเรียกรวม ๆ ว่าชาบูอ่าแหละ..
อันนี้ชาบู ชาบู..ที่เราคุ้นตากัน

ในเซตมี King krab ด้วย

น้ำจิ้ม..อลังเชียว..ใส่ไรมั่งก้อไม่รุ้..อิอิ


ไอสุกี้ยากี้ญี่ปุ่นจิง ๆ เค้าไม่ได้มีให้แช่น้ำ..แบบ จิ้มจุ่ม..จิ้มจุ่ม..คือสุกี้ของที่นี่ค้าจาแบบ..มีกระทะที่หน้าตาเหมือนหม้อชาบูแต่ว่าเค้าจาเปิดเตาให้ร้อนก่อน..อารมณ์ประมาณกระทะร้อน..แล้วก้อจาเทน้ำหน้าตาที่สีเหมือนซอสลงไป..จากนั้นก้อเอาเนื้อ หมู ผัก บลา บลา ที่ให้มาลงไปวางๆ  มันก้อจะผสมกะน้ำขลุกขลิก ๆ สุกี้ที่นี่ไม่มีน้ำจิ้มนะ..ต้องจิ้มกะไข่ดิบ..เอ่อ..ตอนแรกไม่กล้า..แต่ก้อนะ..ไหน ๆ มาแระ..ลองซะหน่อย..(อีกแร้ว..) 

ก้อสั่งเบียร์ไป..อยากจารู้รสชาติเบียร์ท้องถิ่น (อ้างชัด ๆ ) เค้าก้อเอา Sapporo beer มาเสิร์ฟ..นี่ไง..ไทยไม่เคยเห็น..รสชาติเหรอ..ไม่รู้หรอกว่าต่างกะเบียร์สิงห์บ้านเรายังไง..

กินจนพุงกาง..คุนป้าเด็กเสิร์ฟ..มาบอกว่า..แถมเส้นอุด้งให้..ถูกใจ..เพราะว่าช้านยิ้มตลอด..ถามตลอด..อ๊าโนวว..ตลอด..555 ปร้าคะ ก้อปร้าไม่เข้าใจภาษาอังกฤษก้อเลยต้องใช้ภาษาอังเกรียนนิดหน่อย 5555 ป้าแกยังมาโมเมบอกว่าจำได้ว่า..เราเคยมาร้านนี้มาก่อน..เอ่อ..ปร้า..นู๋มาญี่ปุ่นวันนี้ก้อวันแรกจาเคยมากได้งาย..ปร้ามั่วอ่า แร้วก้อตบท้ายด้วยไอติมกล้วย..หน้าตาธรรมดาที่แถมมากะเซตชาบู..เห็นหน้าตาแบบนี้..ธรรมดางี้..จาบอกว่าอร่อยมากกกกก

 กินเสร็จ จ่ายตัง..โอ๊วว..หน้ามืดตาลายคล้ายจาเป็นลม เกือบ ๆ หมื่นเยน..กรี๊ดเรย (ในใจ) แล้วก้อเดินตัวเบาออกมานอกร้าน..โหหห..ในร้านกะนอกร้านอย่างกะคนละโลก....ว่าแล้วก้อเดินสำรวจย่านคาบูกิโจ..ซะหน่อย..555 ตามที่อ่านหนังสือมา เค้าบอกว่าที่ย่านนี้ชื่อคาบูกิโจ คือมะก่อนตอนที่เค้าปรับปรุงพื้นที่ตรงนี้ใหม่ ๆ เมื่อสมัยก่อน (สมัยไหนก้อไม่รุ้) เค้าจาทำให้ย่านนี้เป็นย่านการแสดงคาบูกิ..แต่สุดท้ายไม่ได้ทำ..ไปไป มามา กลายเป็นย่านเที่ยวกลางคืน..เฉย..555  ที่นี่..ไม่มีรูปให้ดูหรอก..ไม่ใช่ไร..มองยังไม่กล้า..จาหยิบกล้องขึ้นมาก้อสั่น..เดี๋ยวพี่ซ่าเค้าเข้าใจว่า..หยิบปืนหล่ะแย่เรย..มีทั้งพี่ซ่า..host เยอะมาก..ยืนขวางทางเต็มไปหมด..เดินสำรวจนิดหน่อย..ก้อกลับโรงแรม..ปวดขาสุด ๆ แต่ก้อนะ..คนไม่เคยออกกำลังกาย อดนอน..ต้องมาเดินงี้..ตายไปเรย..ก่อนนอน..นอนแช่น้ำซะหน่อย..ใครหวังว่าทริปนี้จามีออนเซ็น..ม่าย..อยู่ไหนก้อไม่รุ้..ไม่มีหามะเจอ..แต่เท่าที่รู้มาโตเกียว..(ในเมือง)มานมะมีออนเซ็นธรรมชาติหง่ะ.แต่จาให้ไปถอดเสื้อผ้า..หมด..หมด..ไม่กล้าอ่ะ..

หมดแร้ว..สำหรับวันแรก..รอเตรียมตัวสำหรับ..ดีสนีย์แลนด์วันที่สอง..หุหุ...จบวันแรกแล้วววว..เจอกันตอนสองค่า...^^